วันที่ 4 เมษายน 61 พ.ต.ท.เจนภพ บุตรกินรี รอง ผกก.สส.สภ. เซ็กซี่บาคาร่า เมืองกระบี่ พ.ต.ท.สรรเพ็ชร ช่วยชู สว.สส.ฯ พร้อมด้วย ร.ต.อ.พยงค์ศักดิ์ เครือจันทร์ (เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ร.ต.อ.นิรุตธ์ ดินแดง รองสว.สส. สภ.เมืองกระบี่และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายอาทร ลูกน้อย อายุ 29 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 208 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.72 กรัม น้ำต้มพืชกระท่อม ปริมาตร 500 มิลลิลิตร และจับกุมตัวน.ส.หนึ่งฤดี จีระกาญจน์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 2,017 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 81.77 กรัม พร้อมอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. เครื่องหมายทะเบียนมีร่องรอยการขูดลบ ไม่สามารถอ่านได้ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด
นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รวมมูลค่า เกือบ 1ล้านบาท
เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูมิชิต ทะเบียน บต-6726 กระบี่ จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ทะเบียน ขคข-771 กระบี่ จำนวน 1 คัน และเงินสด จำนวน 10,000 บาท รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูมิชิต ทะเบียน ผจ-6505 สงขลา จำนวน 1 คัน สร้อยคอทอง จำนวน 4 เส้น และสร้อยข้อมือทอง จำนวน 2 เส้น และแหวนทอง จำนวน 2 วง
ก่อนการจับกุมสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า ได้มีการรวมกลุ่มมั่วสุมยา เสพติดภายในสวนปาล์มน้ำมัน ม.3 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งมีกลุ่มม็อบยึดสวนปาล์มอาศัยอยู่ จำนวนมาก จึงได้นำกำลังชุดจับกุมไปตรวจสอบพบนายอาทรและพวกอีก 3 คน กำลังมั่วสุมยาเสพติด จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุม
ตัวนายอาทรได้ 1 คน ส่วนผู้ต้องหารายอื่นหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นกระเป๋าของนายอาทรที่แขวนอยู่บนต้นปาล์ม พบของกลางยาบ้าจำนวน 208 เม็ด และยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องต้องหาที่หลบหนีไปคือนายธนภัทร จีระกาญจน์ อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.สงขลา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 131ม.3 ต.กระบี่น้อย จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ ที่บ้านหลังดังกล่าวพบ น.ส.หนึ่งฤดี ภรรยาของนายธนภัทรฯอาศัยอยู่ในบ้าน จึงได้ทำการตรวจค้นรถกระบะของนายธนภัทร์ที่จอดหน้าบ้าน พบยาบ้านจำนวน 2,017 เม็ดซุกซ่อนในรถกระบะของนายธนภัทร จึงได้ทำการ รวบคุมตัวดำเนินคดี พร้อมแจ้งกล่าวหาร่วมกับพวกมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5(น้ำต้มพืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
ตร.วิชิตใช้เวลาเพียง 3 วัน รวบหนุ่มพม่าที่ก่อเหตุเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านพื้นที่ ต.วิชิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ต.ธัญตุรงค์ วุฒิวงศ์ สว.สส.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.วิชิต ร่วมกันจับกุม นาย โค โค้ว โอเวิน( KO HTWE OVOEN) สัญชาติเมียนมาร์ พร้อมด้วยของกลาง เสื้อ คอกลม สีน้ำตาล สัญลักษณ์ การ์ตูน มีอักษรภาษาอังกฤษ เขียนว่า GET OUT และกางเกง ขาสั้นสีเทา เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และกระเป๋าเป้ สะพายหลังสีดำ ยี่ห้อ พูม่า มีพวงกุญแจ สัญลักษณ์ นินจานารูโตะโดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ห้องพักไม่ทราบเลขที่ หลังสนามสุระกุล ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 3 เม.ย.61 ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต กล่าวถึงการจับกุมดังกล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561เวลาประมาณ 06.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต ได้รับแจ้งว่า บ้านเลขที่ 55/740 ซอย 7 หมู่บ้านวิลล่าดาวรุ่ง ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ทรัพย์สินไป เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อ MINIMEX จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 15,000 บาท หลังจากรับแจ้งจึงให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต ได้รับแจ้งว่า บ้านเลขที่ 25/346 ซอย 7หมู่บ้านวิลล่าแคลิฟอเนีย ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ทรัพย์สินไป กระเป๋าสะพายสีดำยี่ห้อพูม่า จำนวน 1ใบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 คดีในพื้นที่ต.วิชิต จากการตรวจสอบ กล้องวงจรปิด พบบุคคลต้องสงสัย มีตำหนิรูปพรรณ คล้ายกันทั้ง 2คดี น่าจะเป็นคนเดียวกัน จึงได้สืบสวนหาข่าวต่อมา ทราบว่า พักอยู่แถวหลังสนามสุระกุล จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นาย โค โค้ว โอเวิน(KO HTWE OVOEN) มีลักษณะรูปพรรณสัณฐานเหมือนกับคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ที่กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้ อยู่ที่ห้องพักดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้ดูภาพถ่ายและยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.วิชิต
จากการสอบถาม ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ว่า ตนได้เข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านทั้ง 2 หลังจริง โดยเลือกก่อเหตุคนละวัน ซึ่งตนขโมยได้เครื่องทำกาแฟแล้วที่นำไปขายให้กับเพื่อนแถวต.กะทู้ เมื่อได้เงินมาก็นำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อนมาถูกจับกุมเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหะสถาน พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เซ็กซี่บาคาร่า